หลายคนรู้จักผักบุ้งจากเมนูผัดไฟแดง หรือกินคู่กับน้ำพริกในสำรับอาหารไทย แต่รู้หรือไม่ว่า ผักบุ้งไม่ใช่แค่ผักธรรมดาที่ให้ความกรอบอร่อยเท่านั้น มันยังเป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก โดยเฉพาะด้านการดูแลสายตา ผักบุ้งมีหลายสายพันธุ์ เช่น ผักบุ้งไทย ผักบุ้งจีน หรือผักบุ้งแดง ซึ่งถึงแม้จะมีรูปร่าง สี หรือรสชาติแตกต่างกันไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกสายพันธุ์มีเหมือนกันคือสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะ สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับดวงตาและการมองเห็น

เบต้าแคโรทีน ตัวช่วยต้านปัญหาสายตาจากจอมือถือ

สิ่งหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ควรใส่ใจคือปัญหาสายตาที่เกิดจากการใช้มือถือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน อาการแสบตา มองภาพพร่า หรือรู้สึกล้าตา ล้วนเกิดจากการที่ร่างกายมี วิตามินเอไม่เพียงพอ ในการดูแลเซลล์ตา ผักบุ้งมีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอตามที่ร่างกายต้องการ วิตามินเอนี้มีบทบาทโดยตรงในการป้องกันภาวะตาแห้ง ช่วยให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น และยังปกป้องเรตินาจากแสงที่ทำร้ายตา

ลูทีนและซีแซนทีน ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม

อีกหนึ่งสารสำคัญในผักบุ้งคือ ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่งอยู่ในกลุ่มสารแคโรทีนอยด์ที่พบในพืชใบเขียวเข้ม ทั้งสองชนิดนี้สะสมอยู่ในจอประสาทตา และมีหน้าที่ช่วยกรองแสงสีฟ้า ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น การบริโภคผักบุ้งเป็นประจำจึงไม่ใช่แค่ช่วยบำรุงสายตาในระยะสั้น แต่ยังป้องกันปัญหาดวงตาในระยะยาวได้อีกด้วย

ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ดวงตา

ร่างกายเมื่ออายุมากขึ้นจะเสื่อมถอยไปตามกาลเวลา รวมถึงเซลล์ดวงตาด้วย หากไม่มีสารต้านอนุมูลอิสระเข้ามาช่วย ดวงตาก็จะเสื่อมเร็วขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะมองเห็นไม่ชัด จอประสาทตาเสื่อม หรือแม้แต่ต้อกระจก ผักบุ้งเป็นผักที่มีสารฟลาโวนอยด์และวิตามินซีสูง จึงช่วย ชะลอกระบวนการเสื่อมของเซลล์ตา และบำรุงหลอดเลือดฝอยบริเวณดวงตาให้ทำงานได้ดี ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงตาได้ดีขึ้น

ช่วยลดความดันโลหิต ส่งผลทางอ้อมต่อสุขภาพตา

คนที่มีความดันโลหิตสูงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตา เช่น ภาวะเลือดออกในจอตา หรือเส้นเลือดในตาอุดตัน ผักบุ้งมีโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมความดัน และมีเส้นใยอาหารสูงซึ่งช่วยลดไขมันในเลือดได้ด้วย จึงส่งผลทางอ้อมต่อการดูแลสุขภาพตาในระยะยาว

กินผักบุ้งอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

หลายคนชอบผัดผักบุ้งไฟแดง หรือเอาไปลวกกินกับน้ำพริก แต่ควรระวังวิธีปรุงที่ใช้น้ำมันมากเกินไป หรือความร้อนสูงเกินความจำเป็น เพราะสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดจะสลายเมื่อโดนความร้อนสูง ถ้าต้องการได้ประโยชน์จากเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ ควร ผัดด้วยไฟกลาง ใช้น้ำมันให้น้อย หรือเลือกการลวกแล้วกินทันที หรือทำเป็นสลัดผักสดก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่อย่าลืมล้างให้สะอาดเพื่อลดสารเคมีตกค้าง

สรุป

ผักบุ้งไม่ใช่แค่ผักพื้นบ้านราคาถูก แต่คือซูเปอร์ฟู้ดของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะใครที่ใช้สายตาหนักจากหน้าจอ ผักบุ้งช่วยบำรุงสายตาได้จริงผ่านสารอาหารสำคัญอย่างเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ ลูทีน และซีแซนทีน ที่ทำหน้าที่ดูแลและปกป้องเซลล์จอประสาทตาจากการเสื่อมสภาพ การใส่ผักบุ้งเข้าไปในมื้ออาหารประจำวันจึงเป็นการดูแลสุขภาพดวงตาอย่างง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ ยิ่งบริโภคสม่ำเสมอ ยิ่งลดความเสี่ยงของโรคตาได้มากกว่าที่คิด อย่ารอให้ตามัวแล้วค่อยรักษา เริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้ด้วยจานผักบุ้งใกล้ตัวที่ทั้งถูก ทั้งดี และมีประโยชน์รอบด้านครบสูตร